เคล็ดลับ แก้ปัญหาขาหนีบดำ เรียกความมั่นใจของสาวๆ กลับมาอีกครั้ง
วันนี้เราจึงแวะนำเอา 5 เคล็ดลับ ที่ช่วยแก้ปัญหาขาหนีบดำมาฝากสาวๆ ทุกคนที่กำลังหมดความมั่นใจเพราะปัญหาขาหนีบดำกันค่ะ ตามไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรกันบ้าง
1.ไม่ใส่กางเกงในนอนช่วงกลางคืน
การไม่ใส่กางเกงในนอนช่วงกลางคืน นอกจากจะช่วยให้น้องสาวได้มีโอกาสระบายจากการถูกรัดแน่นด้วยกางเกงในมาตลอดทั้งวันแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาขาหนีบดำได้อีกด้วย เพราะกางเกงในที่รัดแน่นจนเกินไป ส่งผลให้เกิดรอยคล้ำบนผิวได้เสมอ หรือหากใครที่จำเป็นต้องใส่กางเกงในนอน แนะนำให้เลือกใช้กางเกงในที่ไม่รัดจนเกินไปจะดีที่สุด
2.ใช้ครีมบำรุงผิว AHA และ Whitening
เลือกใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ AHA และ Whitening เป็นหลัก ทาผิวบริเวณขาหนีบดำ มีส่วนช่วยลดรอยดำให้จางลงได้ เนื่องจากสารทั้งสองชนิดนี้มีส่วนช่วยลดรอยดำ แถมยังช่วยผลัดเซลล์ผิวได้อีกด้วย
3.ขัดผิวด้วยสมุนไพร
การใช้สมุนไพรขัดผิว ถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ที่สาวๆ หลายคนไม่ค่อยได้หยิบนำมาใช้ อาจเป็นเพราะต้องใช้เวลาในการเตรียมส่วนผสม รวมทั้งผลลัพธ์ที่ได้นั้นอาจจะต้องอาศัยการใช้เวลาสักระยะหนึ่งเลยทีเดียว
แต่ถ้าพูดถึงความปลอดภัยแน่นอนว่ามั่นใจได้มากๆ การใช้สมุนไพรในการแก้ปัญหาขาหนีบดำ สามารถใช้ได้ทั้งมะขามเปียกหรือมะนาว นำมาถูผิวบริเวณที่มีรอยดำ ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด ซึ่งกรดผลไม้ที่อุดมอยู่ในมะขามและมะนาวนั้น มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวและช่วยลดรอยดำ พร้อมทั้งช่วยปรับผิวให้นุ่มยิ่งขึ้นได้
4.ออกกำลังกายด้วยท่ากระชับต้นขา
การลดน้ำหนักหรือออกกำลังกายด้วยท่ากระชับต้นขา จะช่วยลดปัญหาการเสียดสีของขาทั้งสองข้างได้ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดไขมันที่ต้นขา ทำให้ต้นขาไม่เกิดการเบียด เนื่องจากการเบียดนั้นถือเป็นต้นตอที่ทำให้เกิดขาหนีบดำนั่นเอง
5.ทำเลเซอร์
วิธีนี้เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ไม่ต้องการใช้เวลาในการแก้ปัญหาขาหนีบดำมากจนเกินไป ซึ่งใครที่ต้องการให้ขาหนีบดำหายเร็วๆ แนะนำให้ทำเลเซอร์ เพราะการทำเลเซอร์จะเป็นการยับยั้งการสร้างเม็ดสี พร้อมทั้งช่วยลบรอยดำบนผิวได้อีกด้วยการแก้ปัญหาขาหนีบดำมีวิธีที่แตกต่างกันออกไป
แต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับแต่ละวิธีที่ใช้ ที่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาและรอคอยผลลัพธ์ที่ยาวสั้นไม่เหมือนกัน ถือเป็นตัวเลือกแก่สาวๆ ทุกคนได้ลองเลือกใช้กัน เพราะแต่ละคนอาจจะมีความสะดวกในการรักษาที่ไม่เหมือนกันนั่นเอง
ติดตามอัพเดทข้อมูลข่าวสาร สุขภาพ ความงาม เพิ่มเติมต่อได้ที่นี่ >> รีวิวTV
ขอบคุณข้อมูลจาก >>> Sanook